บทที่ 6 ตอนที่ 6

“น้า... เอ่อ... คุณแม่จะกลับแล้วหรือคะ...”

อรลออร้องเรียก เมื่อเห็นนางราณีเดินลิ่วๆ ผ่านหน้าหล่อนออกไปยังประตูหน้าบ้าน หญิงสาววิ่งตามไป แต่ก็ถูกนางราณีไล่ให้กลับไปนั่งที่

“กลับไปนั่งรออยู่ที่เดิมเลยนะ นัง... เอ่อยายรุ แม่กลับแล้ว ทำตัวดีๆ ล่ะ คุณริคคาโดเขาจะได้เอ็นดู...”

“แต่... คุณแม่อยู่กับอร... เอ่อ รุก่อนไม่ได้หรือคะ...”

คำพูดของอรลออทำให้นางราณีรำคาญสุดๆ จึงหันกลับมาตวาดเสียงดัง จนลิเดียที่พึ่งเดินเข้ามามองด้วยความแปลกใจนั่นแหละ นางราณีจึงรีบทำเสียงนุ่มปกติ

“เอ่อ... ลูกรุจ๋า... อยู่ที่นี่ อย่าดื้อนะจ๊ะ แม่ไปล่ะ”

พูดจบนางราณีก็รีบเผ่นออกจากคฤหาสน์ของริคคาโดอย่างรวดเร็ว โดยไม่คิดแม้แต่จะหันหลังกลับมามองอรลออแม้แต่น้อย

หญิงสาวรู้สึกหดหู่ ความโดดเดี่ยวเดียวดายค่อยๆ ย่างกายเข้ามาใกล้ และมันก็พุ่งใส่หน้าทันทีเมื่อกลับมาเจอะกับสายตาไม่เป็นมิตรของผู้หญิงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ

“ขึ้นไปอาบน้ำขัดเนื้อขัดตัวได้แล้ว เร็วเข้าคุณริคคาโดรออยู่...”

ลิเดียแสดงความไม่ชอบใจสตรีตรงหน้าชัดเจน เพราะคิดว่าอรลออคือรุจิรา ผู้หญิงที่หวังจะจับเจ้านายของตนเอง

“ทำไมต้องขัดเนื้อขัดตัวด้วยคะ...”

“ไม่ต้องถามมากได้ไหม ตามมาเถอะ น่ารำคาญ...”

หญิงสาวจำต้องกลืนความสงสัยลงไปในคอจนหมด ก่อนจะเดินหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าตามลิเดียขึ้นบันไดบ้านไปด้วยความเศร้าหมอง

ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน... หล่อนก็ไม่พ้นถูกข่มเหงรังแก ชาติที่แล้วหล่อนคงทำกรรมหนักเอาไว้มาก ชาตินี้ถึงได้ต้องมาใช้เวรใช้กรรมสาหัสแบบนี้

น้ำตาคลอเบ้าแทบจะไหลออกมา ขณะเดินก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปในห้องที่ถูกตกแต่งไว้ด้วยโทนสีฟ้าทั่วทั้งห้อง ห้องนี้กว้างขวาง กว้างกว่าบ้านทั้งหลังที่หล่อนอยู่รวมกับนางราณีและรุจิราซะอีก เตียงนอนก็ใหญ่ และท่าทางจะนุ่มน่านอน ซึ่งแตกต่างจากเสื่อน้ำมันที่หล่อนใช้รองนอนที่บ้านโดยสิ้นเชิง

ลิเดียเห็นอรลออที่อยู่ในคราบของรุจิราทำท่าทางตื่นตาตื่นใจกับห้องนอนของตนเองก็ยิ้มเยาะที่มุมปากอย่างเหยียดหยาม

“อาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย เดี๋ยวฉันจะเข้ามาช่วยคุณแต่งตัว”

อรลออหันกลับมามอง ตั้งใจจะถามว่าต้องแต่งตัวด้วยเหรอ หล่อนมาแค่รับใช้คุณผู้ชายของบ้านนี้ แต่ก็ทันได้แค่เห็นบานประตูกระแทกเข้าหากันเท่านั้น ลิเดียหายวับไปแล้ว หญิงสาววางกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ที่พื้นห้อง ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนุ่มด้วยท่าทางอ่อนแรง

แปลกใจไม่น้อยกับห้องนอนกว้างขวางแสนสบายที่ได้รับ ทั้งๆ ที่ตัวเองมาในฐานะสาวใช้ดูแลเจ้าของบ้านหลังนี้เท่านั้นเอง

แต่ช่างเถอะ จะยังไงก็ช่าง... ตอนนี้หล่อนควรเก็บข้าวเก็บของให้เรียบร้อยเสียก่อน และจากนั้นก็รีบอาบน้ำตามคำสั่งของผู้หญิงคนนั้น จะได้ไม่ถูกตำหนิเอา

ใช้เวลาไม่นานนักอรลออก็หมดจดอยู่ในชุดอยู่บ้านกลางเก่ากลางใหม่ของตัวเอง ใบหน้ารูปไข่ขาวเนียนไม่ต่างจากสีของน้ำนมสะอาดสะอ้านปราศจากเครื่องสำอางใดๆ เต็มไปด้วยความกังวลใจ คิดไม่ตกว่าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปตัวเองจะอยู่อย่างไร เพราะเท่าที่สังเกตเห็น ไม่มีใครเลยสักคนภายในคฤหาสน์หลังใหญ่นี้ที่มองหล่อนด้วยสายตาเป็นมิตร

หญิงสาวถอนใจออกมาด้วยความเหนื่อยอ่อน ขณะทรุดร่างลงกับที่นอนขนาดใหญ่สีหวานอีกครั้ง นั่งรอผู้หญิงคนนั้นอยู่พักใหญ่ ก่อนที่ประตูห้องจะถูกเปิดออก ผู้หญิงคนเดิมก้าวเข้ามา

“อ้าว... อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ นึกว่าจะขัดสีฉวีวรรณนานๆ แบบแม่ผู้หญิงทั่วไป”

ลิเดียมีสีหน้าประหลาดใจนัก เมื่อเห็นอรลออในคราบของรุจิรานั่งหน้าแฉล้มรอหล่อนอยู่บนเตียง

อรลออไม่ได้ตอบคำถามแต่กลับถามอย่างอื่นออกไปแทน “แล้วจะให้อร... เอ่อ รุไปดูแลคุณท่านตอนไหนคะ...”

ลิเดียแสยะยิ้มชิงชัง มองอรลออด้วยสายตารู้ทัน ก่อนจะเบ้ปากตอบ “ดูแล... นี่คุณหมายถึงอะไรมิทราบ... อย่าบอกนะว่าไม่รู้ที่ต้องมาเป็นเมียคุณผู้ชายน่ะ...”

สีหน้าซีดเผือดของคู่สนทนาทำเอาสาวใช้ลิเดียแปลกใจซ้ำเข้าไปอีกระลอกใหญ่ ใบหน้าขาวสะอาดไร้เครื่องสำอางขาวซีดไม่ต่างจากกระดาษ ดวงตากลมโตที่ได้อิทธิพลจากแพขนตายาวงอนดกดำทำให้มันหวานซึ้งเบิกกว้างด้วยความตกใจ ขณะที่กลีบปากสีแดงสดเผยอออกจากกัน

ถ้าไม่ได้ยินมากับหู หล่อนคงไม่มีทางคิดได้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นนางมารร้าย สำส่อน เห็นแก่เงินได้อย่างแน่นอน

ก็ดูสิ... ท่าทางไร้เดียงสาชะมัด!

“มะ... หมายความว่า... เอ่อ...คงไม่ใช่...”

น้ำตาปริ่มขอบตา ขณะที่สมองนึกย้อนไปถึงนางราณีกับรุจิราตัวจริงด้วยความผิดหวังอย่างรุนแรง ไม่เคยคิดเลยว่าทั้งสองคนจะทำกับหล่อนได้ถึงเพียงนี้

“ฉัน...หูฝาดไปใช่ไหมคะ...”

“อย่ามาทำเป็นมารยาหน่อยเลยน่า ตั้งใจจะมาเป็นเมียคุณผู้ชายเพื่อกอบโกยสมบัติอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ อย่ามาแสดงละครน้ำเน่าที่นี่ เพราะคุณไม่มีวันตบตาใครได้หรอก แม้แต่คนใช้อย่างพวกฉัน...”

ลิเดียพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม ก่อนจะโยนเสื้อผ้าในมือที่เตรียมมาให้ ลงบนเตียงตรงหน้าของอรลออที่นั่งน้ำตานองหน้าอยู่อย่างสะใจ

หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว มือบางยกขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความเสียใจ “แต่ว่า... แต่ว่าคุณน้า... เอ่อ คุณแม่บอกว่า...จะให้ฉันมาเป็นคนดูแลท่าน ไม่ใช่...”

เสียงสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกอกทำให้คำพูดไม่จบประโยค และนั่นก็เท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้ลิเดียแทรกขึ้นมาเสียงหยามหยัน

“นางบำเรอ...!”

อรลออหน้าซีดสลับแดง ผิดหวังกับราณียิ่งนัก แต่ก็ทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาไม่รักดีที่มันไหลมาไม่ขาดสายทิ้งครั้งแล้วครั้งแล้ว แต่ยิ่งเช็ดมันก็ยิ่งไหล กลีบปากอิ่มสีแดงสดจำต้องเม้มเข้าหากันแน่นเพื่อกั้นเสียงสะอื้นที่น่าเวทนาเอาไว้ในอก

“ฉัน... ฉันขอกลับบ้านได้ไหม... ฉัน...”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป